ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ท่านอนนี้ทำให้คุณแม่นอนหลับไม่สบาย และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตกะทันหัน ผู้หญิงตั้งครรภ์บางคนเชื่อว่า ทารกในครรภ์จะปลอดภัยเมื่อนอนหงาย แต่ถ้าคุณยังคงคิดเช่นนี้ต่อไป คุณอาจเสียใจภายหลังเมื่อได้รู้ถึงผลกระทบที่ทารกในครรภ์อาจต้องเผชิญเมื่อตั้งครรภ์และนอนหงาย
1. ผู้หญิงตั้งครรภ์นอนหงายได้หรือไม่?
ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรนอนหงายหรือไม่? เมื่อกำลังตั้งครรภ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณแม่ต้องรู้สึกสบายทั้งตอนหลับและตอนตื่น เพราะในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ หน้าท้องยังเล็ก และทารกในครรภ์ยังไม่โตมาก คุณแม่สามารถนอนได้ทุกท่าที่รู้สึกสบาย เหมือนกับก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่จะเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มดลูกเริ่มขยายและหน้าท้องโตขึ้น ในเวลานี้ คุณแม่ควรเริ่มเปลี่ยนนิสัยการนอน เพื่อไม่ให้ปัญหาการนอนรบกวนช่วงเวลาที่มีความสุขระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ควรเปลี่ยนมานอนตะแคงขวาหรือตะแคงซ้ายให้เร็วที่สุด
คุณไม่ควรนอนหงายหลังจากเข้าสู่สัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อนอนหงาย น้ำหนักของมดลูกจะกดทับเส้นเลือดดำ ซึ่งส่งผลให้เลือดไหลเวียนจากส่วนล่างของร่างกายไปยังหัวใจได้ยากขึ้น คุณอาจรู้สึกเวียนศีรษะหรือหน้ามืดหากนอนหงายนานเกินไป

2. ทำไมผู้หญิงตั้งครรภ์จึงไม่ควรนอนหงาย?
ทำไมผู้หญิงตั้งครรภ์ถึงไม่ควรนอนหงาย? ทารกในครรภ์อาจประสบปัญหาและความเสี่ยงบางอย่างจากท่านี้ ต่อไปนี้คือเหตุผลที่ตอบคำถามว่าผู้หญิงตั้งครรภ์สามารถนอนหงายได้หรือไม่:
2.1. การนอนหงายอาจทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์:
จากการศึกษาระยะเวลา 5 ปี นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียพบว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่นอนหงายมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูงกว่าผู้ที่นอนตะแคงซ้ายถึง 6 เท่า
นักวิจัยระบุว่า เมื่อตั้งครรภ์และนอนหงาย ท่านี้จะทำให้เกิดแรงกดบนทารกในครรภ์ ทำให้ทารกหยุดเคลื่อนไหวและลดการใช้ออกซิเจน ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกเสียชีวิต
นอกจากนี้ เมื่อตั้งครรภ์และนอนหงาย น้ำหนักของมดลูกจะกดทับเส้นเลือด ซึ่งส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงทารกลดลง อัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์จะผิดปกติสูงกว่าการนอนตะแคงซ้ายถึง 5 เท่าความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในครรภ์จะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงปลายของการตั้งครรภ์ เมื่อหน้าท้องมีขนาดใหญ่มากขึ้น
2.2. ออกซิเจนที่ส่งถึงทารกลดลง:
จากการวิจัยพบว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์ประมาณ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์มีมดลูกเอียงไปทางขวาดังนั้น หากแม่นอนหงายหรือนอนเอียงขวาเป็นเวลานาน อาจทำให้การลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปยังทารกลดลงคุณแม่ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือเบาหวานไม่ควรนอนหงาย เพราะจะส่งผลต่อการส่งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์
2.3. การนอนหงายระหว่างตั้งครรภ์ลดการไหลเวียนของเลือดไปยังทารก:
เมื่อนอนหงาย มดลูกจะกดทับเส้นเลือดใหญ่ (inferior vena cava) น้ำหนักทั้งหมดของมดลูกจะกดลงบนกระดูกสันหลังและเส้นเลือดหลักที่ส่งไปยังลำไส้ เลือดที่ไหลเข้าสู่หัวใจจะลดลงครึ่งหนึ่ง ส่งผลต่อการส่งผ่านสารอาหารไปยังรก และพัฒนาการโดยรวมของทารก
2.4. เมื่อนอนหงายบ่อย อาการบวมน้ำของร่างกายจะรุนแรงขึ้น:
ผู้หญิงตั้งครรภ์มักมีอาการบวมที่ขาเนื่องจากร่างกายกักเก็บน้ำ หากคุณมีอาการบวม ควรหลีกเลี่ยงการนอนหงาย เพราะท่านี้จะเพิ่มแรงกดบนร่างกาย ทำให้อาการบวมรุนแรงขึ้นอาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูง และบวมทั่วร่างกาย จนถึงขั้นเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายมาก
2.5. อัมพาตหลอดเลือดดำที่ขาส่วนล่างจากท่านอนหงาย:
เส้นเลือดขอดที่ขาอาจเกิดจากท่าที่คุณแม่นอน โดยเฉพาะท่านอนหงาย ผู้หญิงตั้งครรภ์อาจมีเส้นเลือดขอดหรืออาการตึงที่ขา เพราะหลอดเลือดดำขยายตัวในช่วงตั้งครรภโอกาสเกิดเส้นเลือดขอดจะเพิ่มขึ้นเมื่อนอนหงายเพราะมดลูกกดทับทางเดินปัสสาวะบริเวณเชิงกราน

3. ท่านอนที่ดีต่อทารกที่คุณแม่ควรใช้:
คุณแม่ควรนอนตะแคงซ้าย เพราะจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังทารก ทำให้ทารกได้รับสารอาหารมากขึ้น เมื่อไตอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย จะช่วยลดการสะสมของน้ำในร่างกาย ลดอาการบวมที่ขา มือ และข้อเท้า ช่วยให้ทารกได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ การนอนตะแคงซ้ายยังลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดได้มากกว่าท่านอนอื่น ๆ
ดังนั้น คุณแม่ควรฝึกนอนตะแคงซ้ายตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์
4. วิธีเปลี่ยนท่านอนอย่างปลอดภัย:
หลังจากเข้าสู่สัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการนอนหงายทั้งคืน แต่การเปลี่ยนมานอนตะแคงอาจยากสำหรับคนที่เคยนอนหงายมาก่อน
ในกรณีนี้ ควรใช้หมอนหนุนหลังเพิ่มเติม หรือสะดวกกว่านั้นคือใช้หมอนรูปตัว U หรือ C สำหรับคนท้อง ข้อดีของการใช้หมอนคือช่วยให้ไม่ต้องกังวลว่าจะนอนหงายโดยไม่รู้ตัว คุณสามารถเอนหลังหรือนอนกลิ้งไปมาได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะนอนหงายเต็มตัวเพราะมีหมอนช่วยพยุง
ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ การนอนหงายในมุมเอียงเล็กน้อย 20 ถึง 30 องศายังถือว่าปลอดภัย แลไม่ส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ ตราบใดที่คุณแม่ไม่ได้เอนตัวนอนหงายเต็มที่
คุณสามารถขอให้สามีช่วยสังเกตท่านอนของคุณตอนกลางคืน หากเขาตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคุณนอนหงาย ขอให้ช่วยพาคุณกลับมานอนตะแคง

ผู้หญิงตั้งครรภ์นอนหงายได้หรือไม่?
5. หมายเหตุบางประการเพื่อช่วยให้คุณแม่นอนหลับได้ดี:
เข้านอนเร็วและหลีกเลี่ยงการนอนดึก
งดดื่มแอลกอฮอล์ ชา หรือกาแฟ
การออกกำลังกายและฟังเพลงเบา ๆ จะช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
หากรู้สึกไม่สบายเมื่ออยู่ในท่านอนตะแคง ให้ใช้หมอนขนาดเล็กหนุนหลังเอนไปข้างหนึ่งประมาณ 30 องศา
และเว้นระยะห่างระหว่างขาทั้งสองข้างเพื่อลดแรงกดที่ข้อต่อและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดผู้หญิงตั้งครรภ์นอนหงายได้หรือไม่?
สรุป:
จากเนื้อหาข้างต้น Wilimedia ต้องการให้คุณเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าผู้หญิงตั้งครรภ์นอนหงายได้หรือไม่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทารกในครรภ์
การเลือกท่านอนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบาย และส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างปลอดภัย
เว็บไซต์: https://wilimedia.co
เฟซบุ๊กแฟนเพจ: https://www.facebook.com/wilimedia.en
อีเมล: support@wilimedia.co