โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือที่รู้จักกันว่าโรคเบาหวานในช่วงตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่อันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ หากหญิงตั้งครรภ์มีภาวะนี้ ระดับน้ำตาลในเลือดของเธอจะสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของแม่และทารก หากคุณประสบกับภาวะนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ดี มาสำรวจสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์กับ WiliMedia กันเถอะ!

5 สาเหตุของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
1. น้ำหนักเกินและโรคอ้วน
เมื่อหญิงตั้งครรภ์มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ระดับน้ำตาลในเลือดอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะที่มีผลต่อการมองเห็น ความต้านทานอินซูลินและการหลั่งอินซูลินที่เพิ่มขึ้นในบุคคลที่เป็นโรคอ้วนสามารถทำให้เกิดความผิดปกติในการเผาผลาญกลูโคส ทำให้เกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
2. ประวัติครอบครัวของโรคเบาหวาน
การมีสมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิด เช่น พ่อแม่หรือพี่น้อง ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
3. ประวัติการคลอดบุตรขนาดใหญ่กว่า 8 ปอนด์
หญิงที่เคยคลอดบุตรที่มีน้ำหนักมากกว่า 4 กิโลกรัม มีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในครั้งต่อไป
4. อายุมารดาที่มากขึ้น
ควรให้หญิงคลอดบุตรก่อนอายุ 25 ปีเพื่อลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ยิ่งอายุมากขึ้น โดยเฉพาะมากกว่า 35 ปี ความเสี่ยงก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น
5. กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)
PCOS เป็นความผิดปกติของฮอร์โมนที่พบได้ทั่วไปในหญิงวัยเจริญพันธุ์ มันสามารถทำให้มีปัญหาในการมีประจำเดือนและฮอร์โมนเพศชายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในหญิงที่มีประวัติ PCOS

เบาหวานตั้งครรภ์: อาการ สาเหตุ และการควบคุม
วิธีการรักษาโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
1. ปรับอาหารการกิน
อาหารควรตอบสนองความต้องการทางโภชนาการในขณะที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ปลอดภัย ควรให้โภชนาการและพลังงานเพียงพอทั้งแม่และทารก หญิงตั้งครรภ์ควรรักษาน้ำหนักให้เหมาะสมในขณะที่บริโภคแคลอรีเพียงพอทุกวัน เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำ มีเส้นใยสูง และเน้นธัญพืชเต็มเมล็ดแทนข้าวขาว จัดทำแผนการกินที่สมดุลและหลากหลายตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีระหว่างการตั้งครรภ์
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การสร้างนิสัยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก่อนและระหว่างการตั้งครรภ์สามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ใช้เวลา 30 นาทีต่อวันในการออกกำลังกายเพื่อปรับปรุงสุขภาพอย่างมาก ทำกิจกรรมเบา ๆ ทุกวัน เช่น เดินเล่น โยคะ และขี่จักรยานเพื่อรักษาความฟิต
3. รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม
หากคุณวางแผนที่จะตั้งครรภ์และมีน้ำหนักเกิน ควรพิจารณาลดน้ำหนักล่วงหน้าเพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างสุขภาพดี หากคุณมีน้ำหนักที่เหมาะสมอยู่แล้ว ควรรักษาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
4. เข้ารับการตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอ
เข้ารับการตรวจครรภ์ตามกำหนดและทำการตรวจคัดกรองที่จำเป็นทั้งหมดในระหว่างการตั้งครรภ์ตามคำแนะนำของแพทย์
5. ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด
หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ 1-2 ชั่วโมงก่อนและหลังอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่บริโภคสอดคล้องกับคำแนะนำของแพทย์และแผนการรักษาลดอาการโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เบาหวานตั้งครรภ์: อาการ สาเหตุ และการควบคุม
อาการของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
หลายกรณีของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ไม่แสดงอาการที่ชัดเจน ทำให้การตรวจพบล่าช้า การตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยระบุภาวะนี้ได้ อาการทั่วไปบางอย่าง ได้แก่:
อ่อนเพลีย
มองเห็นไม่ชัด
ปัสสาวะบ่อย
กระหายน้ำตลอดเวลา
นอนกรน
น้ำหนักขึ้นเกินกว่าที่แนะนำ
หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ

เบาหวานตั้งครรภ์: อาการ สาเหตุ และการควบคุม
บทสรุป
การเข้าใจปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยการใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันการเกิดภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และทารก โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์พบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ แต่ไม่ควรละเลย การปฏิบัติตามคำแนะนำในบทความนี้สามารถช่วยลดอาการปวดหลังและป้องกันไม่ให้มีผลกระทบต่อกิจกรรมประจำวันได้ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรมุ่งเน้นที่การกินอาหารอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์และวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดทั้งต่อตัวเองและทารก หลังคลอด อาการเหล่านี้มักจะหายไป ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป!
เว็บไซต์: https://wilimedia.co/
แฟนเพจ: https://www.facebook.com/wilimedia.en
อีเมล: support@wilimedia.co