ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นปัญหาสุขภาพที่มักเกิดขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ แล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการท้องอืดควรทำอย่างไรดี? ผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีอาการท้องอืดหรือแสบร้อนกลางอกในระหว่างตั้งครรภ์ คุณควรลองออกกำลังกายเบา ๆ กินอาหารที่มีใยอาหารมาก ๆ เพื่อรักษาอาการท้องอืด
อาการท้องอืดท้องเฟ้อเป็นภาวะที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะพบเจอได้ตลอด 9 เดือนของการตั้งครรภ์ บทความนี้ Wilimedia จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหานี้!
อาการท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์: 6 เคล็ดลับดีๆ เพื่อลดอาการท้องอืด
1. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการท้องอืด
อาการท้องอืดและท้องเฟ้อในระหว่างตั้งครรภ์อาจเกิดจากปัจจัยต่อไปนี้:
การเปลี่ยนแปลงของอาหารและฮอร์โมน: เมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลง ทำให้กล้ามเนื้อของระบบย่อยอาหารอ่อนตัวลง ส่งผลต่อกระบวนการย่อยอาหารและเพิ่มโอกาสในการเกิดกรดไหลย้อน
การเปลี่ยนแปลงขนาดของมดลูก: เมื่อคุณตั้งครรภ์ กระเพาะอาหารของคุณแม่จะถูกกดทับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ ในช่วงเวลานี้ ลำไส้จะปล่อยก๊าซออกมา ทำให้คุณแม่ท้องอืดและปวดท้อง
ลมคั่งและแก๊ส: คุณแม่มักมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก และสารฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น รีแลกซินและโปรเจสเตอโรน ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานคลายตัวในระหว่างการคลอด
พฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ: คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการท้องอืดได้หากกินอาหารสำเร็จรูป เผ็ดร้อน หรือมีน้ำมันมาก
คุณแม่อาจมีอาการท้องอืดจากการน้ำหนักขึ้น: คุณแม่มักจะอยากอาหารและหิวเร็ว ดังนั้นจึงกินมากกว่าปกติ คุณแม่อาจมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้เนื่องจากสาเหตุนี้
ท้องผูกขณะตั้งครรภ์: อุจจาระของคุณแม่แห้งกว่าปกติ เนื่องจากทารกในครรภ์ดูดซึมน้ำจากอาหารไปยังลำไส้ เมื่อเวลาผ่านไป การสะสมของอุจจาระในลำไส้ตรงจะนำไปสู่การท้องอืด การขับถ่ายแก๊ส และท้องผูก
คุณแม่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์: อาจมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด และคลื่นไส้
การเปลี่ยนแปลงทั้งตำแหน่งและกระบวนการย่อยอาหาร: ตำแหน่งและความดันของอวัยวะย่อยอาหารเปลี่ยนไปเนื่องจากการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้อาจทำให้คุณท้องอืดและย่อยยาก เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการท้องอืด คุณแม่ควรใช้เคล็ดลับการรักษาบางอย่างเพื่อให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
2. อาการท้องอืดในหญิงตั้งครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถระบุภาวะท้องอืดได้โดยพิจารณาจากอาการบางอย่างดังต่อไปนี้:
รู้สึกท้องอืดและตึง
รู้สึกหายใจลำบาก
ร้อนและอาหารไม่ย่อย
มีอาการท้องผูก
รู้สึกเบื่ออาหารเมื่อกินมากเกินไป

อาการท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์: 6 เคล็ดลับดีๆ เพื่อลดอาการท้องอืด
3. ท้องอืดในคุณแม่ตั้งครรภ์อันตรายแค่ไหน?
แพทย์กล่าวว่าท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ แม้ว่าอาการนี้จะทำให้คุณแม่ไม่สบาย แต่ก็ไม่ต้องกังวล คุณแม่จะผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายและรู้สึกไม่สบายตลอดการตั้งครรภ์ หากคุณแม่มีอาการนี้ คำแนะนำคือคุณแม่ควรสังเกตอาการท้องเฟ้อและท้องอืดประมาณสองถึงสามวัน
เช่นเดียวกับอาการแสบร้อนกลางอก ปวดหลัง และท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์ อาการเหล่านี้ทำให้คุณแม่เหนื่อยและไม่สบาย แต่โดยปกติแล้วจะไม่ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์และจะหายเองเมื่อคุณแม่รู้วิธีใช้คำแนะนำบางอย่างเพื่อปรับปรุงอาการของตนเองอย่างถูกต้อง
คุณแม่ควรไปพบแพทย์ทันทีหากอาการท้องอืดท้องเฟ้อไม่ลดลงหลังจากสองวันและทำให้คุณแม่เบื่ออาหารหรืออ่อนเพลีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากสรีรวิทยาเท่านั้น แต่อาจเป็นอาการของโรคอันตราย
4. คำแนะนำในการรักษาอาการท้องอืดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
นี่คือวิธีง่าย ๆ และปลอดภัยในการรักษาอาการท้องอืดสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ที่แม่ ๆ สามารถอ้างอิงและทำได้ทันทีที่บ้าน:
4.1. ดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาอาการอาหารไม่ย่อย
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นคือการรักษาอาการท้องอืดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณผู้หญิงสามารถดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ ก่อนอาหารได้หากรู้สึกท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย มะนาวสามารถช่วยให้กระเพาะอาหารได้รับกรดเพิ่มขึ้น ทำให้อาการท้องอืดดีขึ้น
4.2. กินโยเกิร์ตเยอะ ๆ
สตรีมีครรภ์สามารถกินโยเกิร์ตเพื่อรักษาอาการท้องอืดได้ เพราะโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์มากมายที่ช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น เพื่อให้สตรีมีครรภ์กินโยเกิร์ตที่ไม่เย็นเกินไปจนส่งผลกระทบต่อร่างกาย ควรปล่อยทิ้งไว้นอกตู้เย็นประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนกิน
4.3. ไม่ควรกินอาหารที่ย่อยยาก
คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการท้องอืดและย่อยยากขึ้นจากการกินอาหารทอด อาหารมัน และอาหารรสจัด ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ควรงดเว้นการกินอาหารเหล่านี้เพื่อรักษาอาการท้องอืด
4.4. ประคบด้วยถุงน้ำแข็ง
สตรีมีครรภ์สามารถประคบถุงน้ำแข็งที่หน้าท้องได้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงหลังอาหาร หากมีอาการเรอหรือท้องอืด วิธีนี้จะได้ผลดี นอกจากนี้ คุณผู้หญิงยังสามารถอาบน้ำเย็นเพื่อผ่อนคลายได้อีกด้วย
4.5. คุณแม่ตั้งครรภ์ควรแบ่งมื้ออาหารในแต่ละวัน
นอกจากนี้ นี่เป็นเคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการท้องอืดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หากกินมากเกินไปในครั้งเดียว กระเพาะอาหารจะถูกกดดันและไม่สามารถย่อยอาหารทั้งหมดได้ ผู้ป่วยจะรู้สึกท้องอืดและเรอต่อเนื่องหากกินอาหารมากเกินไป ดังนั้น คุณผู้หญิงควรแบ่งมื้ออาหารและกินบ่อย ๆ ในหนึ่งวัน คุณแม่จะเรอน้อยลงหากกินช้า ๆ และเคี้ยวให้ละเอียด
4.6. ออกกำลังกายทุกวัน
หากคุณไม่ค่อยได้ขยับตัวมากนักระหว่างตั้งครรภ์ คุณจะรู้สึกท้องหนัก อาหารย่อยไม่สมบูรณ์ และร่างกายเหนื่อยล้า ในเวลานี้ คุณผู้หญิงมักมีอาการเรอและอาหารไม่ย่อย ดังนั้น คุณผู้หญิงจะต้องทำกิจกรรมเบา ๆ ทุกวัน ควรเลือกกิจกรรมกีฬาที่เหมาะสม เช่น การเดินหรือโยคะ
อาการท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์: 6 เคล็ดลับดีๆ เพื่อลดอาการท้องอืด
5. คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถดื่มเครื่องดื่มชนิดใดได้บ้างหากอาหารไม่ย่อย?
คำถามที่ว่า “คุณแม่ตั้งครรภ์อาหารไม่ย่อยควรทำอย่างไร หรือควรกินดื่มอย่างไร” เป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อพบกับภาวะนี้ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ควรดื่มสิ่งต่อไปนี้:
น้ำ: ร่างกายต้องการน้ำอย่างเพียงพอ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละแปดถึงสิบแก้ว คุณแม่ยังสามารถดื่มน้ำเมล็ดฟีนูกรีก หรือที่เรียกว่าเมล็ดลูกซัด เพื่อรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อระหว่างตั้งครรภ์
ดื่มน้ำแครอท: น้ำแครอททำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกสบายขึ้น ในการรักษาอาการท้องเฟ้อ คุณแม่ยังสามารถทำข้าวต้มเหลวที่ปรุงด้วยแครอทได้
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถลดอาการท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์ได้โดยการกินมะละกอสุกและอาหารที่มีใยอาหารสูงซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหาร
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการท้องอืด ขมิ้นสดสามารถนำมาปรุงอาหารบางอย่างเพื่อช่วยกระเพาะอาหารเมื่อท้องเฟ้อได้
6. อาหารประเภทใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์อาหารไม่ย่อย?
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทต่อไปนี้ หากกำลังมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์: คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้โดยการงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ออกจากอาหารประจำวัน
เครื่องดื่มที่ทำให้เกิดแก๊สได้ง่าย: น้ำอัดลม ถั่ว หัวหอม และอาหารทอดที่มีน้ำมันมาก อาหารจานด่วน อาหารรสจัด เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดแก๊สได้
ผลิตภัณฑ์นมที่มีแลคโตส: ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถดูดซึมได้ เมื่อตั้งครรภ์ คุณอาจมีอาการท้องเฟ้อและอาหารไม่ย่อยได้หากไม่สามารถดูดซึมแลคโตสได้ ดังนั้น หากคุณมีอาการท้องอืดหลังจากดื่มนมแม่ คุณควรหานมชนิดอื่นที่เหมาะสม
อาหารหมักดองบางชนิดตามธรรมชาติ: เช่น หัวหอมดอง มะเขือเทศดอง และแตงกวาดอง จะเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร เมื่อตั้งครรภ์ คุณอาจมีอาการท้องอืดและเรอได้หากกินอาหารเหล่านี้มากเกินไป
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรมีพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีต่อสุขภาพ:คุณแม่ควรแบ่งมื้ออาหารและเคี้ยวให้ละเอียด ไม่ควรกินมากเกินไป
เลือกเสื้อผ้าที่หลวมและยืดหยุ่นได้
ออกกำลังกายเบา ๆ ขยับร่างกายในระดับปานกลาง
นวดหน้าท้องเบา ๆ
รักษาสภาพจิตใจให้ร่าเริงและมีความสุขเพื่อลดความเครียด
เลิกนิสัยที่ไม่ดี เช่น การนอนดึก การใช้ยาสูบ เบียร์ ไวน์ และชา

อาการท้องอืดระหว่างตั้งครรภ์: 6 เคล็ดลับดีๆ เพื่อลดอาการท้องอืด
สรุป
อาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด และท้องเฟ้อค่อนข้างพบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ บางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น คุณแม่ตั้งครรภ์ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาแต่เนิ่น ๆ หากอาการนี้ยังคงอยู่และไม่ทุเลาลง หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ภาวะนี้ยืดเยื้อเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้เบื่ออาหารและเหนื่อยล้าทางจิตใจ ทำให้ทารกขาดสารอาหาร
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลร่างกายให้ดีในช่วงตั้งครรภ์ และไปพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์เป็นประจำเพื่อติดตามสุขภาพและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
เว็บไซต์: https://wilimedia.co
แฟนเพจ: https://www.facebook.com/wilimediavn
อีเมล: support@wilimedia.co