การแพทย์สมัยใหม่พบความยากลำบากในการรักษาไข้หวัดใหญ่ให้กับหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากวิธีการรักษาอาจส่งผลทั้งต่อแม่และทารก ไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่จากคนสู่คน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์มักมีความเสี่ยงสูงสุด
เมื่อมีครรภ์ หญิงตั้งครรภ์อาจมีอาการจาม น้ำมูกไหล เจ็บคอ รวมทั้งไอ หนาวสั่น ร่างกายอ่อนเพลีย และหมดแรง แล้วเมื่อแม่ตั้งครรภ์เป็นหวัด ควรไปพบแพทย์เมื่อใด? หญิงตั้งครรภ์ควรทำอย่างไรเมื่อเป็นหวัด? มาเรียนรู้ 7 วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่สำหรับหญิงตั้งครรภ์จาก Wilimedia กัน!
หญิงตั้งครรภ์เป็นโรคไข้หวัดใหญ่: สาเหตุ และ 7 เคล็ดลับป้องกันโรค
1. ไข้หวัดใหญ่คืออะไร?
ไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ A มักมีแอนติเจน hemagglutinin H 15 ชนิด (H1–H15) และ neuraminidase N 9 ชนิด (N1–N9)
โรคมักกินเวลา 7–10 วัน และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวได้เอง ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. สาเหตุที่หญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่
อาการเช่น จาม น้ำมูกไหล เจ็บคอ และไอ เป็นสัญญาณของไข้หวัดใหญ่ หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นหวัดอาจมีปัญหาสุขภาพและส่งผลต่อทารกหากอาการยืดเยื้อ
การทราบสาเหตุจะช่วยให้คุณแม่ป้องกันโรคได้ ปัจจัยมีทั้งด้านในและภายนอก ดังนี้:
2.1 ปัจจัยด้านใน
การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในตอนตั้งครรภ์ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจึงไวต่อการติดเชื้อมากขึ้น
2.2 ปัจจัยด้านนอก
การเปลี่ยนแปลงของอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวทำให้ร่างกายหญิงตั้งครรภ์ถูกโจมตีจากเชื้อโรคได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้จากคนที่เป็น เชื้อแพร่ผ่านน้ำลายและเสมหะ
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงสามารถต้านเชื้อได้ แต่ร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ที่อ่อนแอกว่าย่อมติดเชื้อได้ง่ายกว่า
3. วิธีแยกไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดา
การแพทย์แบ่งโรคหวัดออกเป็น 2 ประเภท แม้จะคล้ายกันแต่มีจุดต่างชัดเจน
3.1 หญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่
สาเหตุ: มักเกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ประเภทระบาด มี 3 สายพันธุ์หลักคือ A, B และ C
อาการ: ปรากฏอย่างรวดเร็ว มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เหงื่อออก และอ่อนเพลียอย่างหนัก
3.2 หญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดธรรมดา
สาเหตุ: เกิดจากไวรัสที่เข้าสู่ร่างกายผ่านจมูกหรือปาก ชนิดที่พบบ่อยคือ rhinovirus
อาการ: ไอ จาม คัดจมูกหรือมีน้ำมูก เจ็บคอ มีไข้น้อยหรือปวดศีรษะบ้างแต่ไม่บ่อย
หญิงตั้งครรภ์เป็นโรคไข้หวัดใหญ่: สาเหตุ และ 7 เคล็ดลับป้องกันโรค
4. หญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่เพราะขาดการดูแล
ปัญหาสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ส่งผลทั้งแม่และทารก ทำให้การดูแลโรคมีความซับซ้อนมากขึ้น
ในอดีตผู้หญิงตั้งครรภ์อาจทานยาไม่มีใบสั่งเพื่อบรรเทาอาการ แต่ปัจจุบันต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อทารก
แพทย์สามารถสั่งยาที่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ได้ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะรักษาไข้หวัดใหญ่ในช่วงตั้งครรภ์
5. อาการบ่งชี้ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ในช่วงตั้งครรภ์
หญิงตั้งครรภ์สามารถสังเกตอาการได้เร็วเพื่อป้องกันผลกระทบรุนแรงต่อแม่และทารก อาการ ได้แก่:
มีไข้ ค่อย ๆ ขึ้นทีละน้อย
เจ็บคอและหนาวสั่น
ปวดกล้ามเนื้อหรือปวดร่างกายอย่างรุนแรง
ปวดศีรษะ
จมูกอุดตัน น้ำมูกไหล
อ่อนเพลียเรื้อรัง
ไข้หวัดใหญ่มักมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง อาการอาจเลวร้ายขึ้นและยาวนาน หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาในไตรมาสแรกเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแท้ง ทารกพิการ หรือสารพิษต่อทารก
อย่างไรก็ตาม แพทย์สามารถสั่งยา antiviral หรือยาอื่นที่เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้
6. หญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่มีผลต่อทารกหรือไม่?
ไม่ใช่ทุกเคสที่ส่งผลต่อทารก แต่มีความเสี่ยงบางอย่าง:
ความพิการแต่กำเนิด: หากเป็นไข้หวัดใหญ่ในช่วง 13 สัปดาห์แรก ทารกอาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาเช่น เพดานโหว่ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ฯลฯ
โอกาสเสี่ยงเป็นออทิสติก: มีงานวิจัยชี้ว่าไข้ในช่วงไตรมาสแรกอาจเพิ่มความเสี่ยงออทิสติกขึ้น 34%
เป็นหืดหรือแพ้: การสัมผัสเชื้อไวรัสขณะตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในร่างกาย ทำให้เด็กมีแนวโน้มเป็นหืดหรือแพ้หลังคลอด
คลอดก่อนกำหนด ทารกเสียชีวิตในครรภ์ หรือแท้ง: ไข้สูงและเชื้อไวรัสอาจทำลายสุขภาพทารก ส่งผลให้เกิดภาวะคลอดก่อนหรือแท้ง

หญิงตั้งครรภ์เป็นโรคไข้หวัดใหญ่: สาเหตุ และ 7 เคล็ดลับป้องกันโรค
7. ทำอย่างไรเมื่อหญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่?
ไม่ต้องกังวลมากเกินไป สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยวิธีดังนี้:
7.1 อบไอน้ำจมูก (Xông mũi)
ต้มน้ำกับใบที่มีกลิ่นเช่น ใบงาขี้เถ้า โหระพา สะระแหน่ ใบส้ม ตะไคร้ และอาร์เทมิเซีย หญิงตั้งครรภ์สูดไอน้ำเพื่อช่วยลดอาการคัดจมูก
7.2 หยอดน้ำเกลือ
น้ำเกลือ NaCl 0.9% ช่วยทำความสะอาดโพรงจมูก ขจัดเสมหะไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ใช้ล้างจมูกประจำวันเพื่อสุขอนามัย
7.3 กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น
ละลายเกลือครึ่งช้อนชาในน้ำอุ่น กลั้วคอก่อนนอนและตอนเช้า
7.4 ใช้น้ำมันต้นชา (Eucalyptus) หรือสะระแหน่
หยดเล็กน้อยที่ปีกจมูกเพื่อเปิดทางเดินหายใจ
7.5 รักษาความอบอุ่นและพักผ่อน
เก็บอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่น และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ขณะนอนให้หนุนหมอนสูงเล็กน้อยเพื่อช่วยลดอาการคัดจมูก
7.6 รับประทานอาหารครบถ้วน
เลือกทานอาหารที่มีสังกะสีสูง (เนื้อไม่ติดมัน เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ธัญพืช ไข่ ถั่วเขียว ผักโขม บร็อคโคลี่ เคล และเมล็ดฟักทอง) และวิตามินซี (ส้ม เกรปฟรุ้ต กีวี สับปะรด สตรอว์เบอร์รี และฝรั่ง)
หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที
8. หญิงตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่ควรกินอะไร?
นี่คือเมนูแนะนำที่ทำเองได้ ทำให้หายหวัดได้ดีขึ้น:
โจ๊กใบงาขี้เถ้า ไข่ และหอมใหญ่
ผสมส่วนผสมทั้งสามที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ ไข่ให้โปรตีน หอมใหญ่ช่วยบรรเทาอาการหวัด ช่วยระบายลม แก้หวัดและฆ่าเชื้อ และใบงาขี้เถ้าช่วยลดเจ็บคอและคลื่นไส้
ผลไม้ที่อุดมวิตามินซี
วิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แม่ตั้งครรภ์ควรบริโภคสตรอว์เบอร์รี กีวี ส้ม ฝรั่ง และเกรปฟรุ้ต เพื่อสุขภาพและผิวดี
ใช้กระเทียม
กระเทียมมีสารต้านเชื้อโรค แม่สามารถใส่ในผักผัดหรือกุ้งผัดแทนการทานดิบ ร่วมกับผลไม้ที่มีวิตามินซีเป็นของหวานช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
ซุปไก่
มีสมุนไพรลดการอักเสบ เช่น พริก cayenne กระเทียม ขิง หอมใหญ่ และผักชีฝรั่ง เพื่อบรรเทาอาการหวัด
เครื่องดื่มแนะนำ
น้ำอุ่น: ช่วยลดอาการเจ็บคอและรักษาความชุ่มชื้น
ชาขิง: อุ่นร่างกาย ขับพิษเชื้อโรค ดื่มกับน้ำผึ้งและมะนาว
น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล: ช่วยล้างตับ ต่อมน้ำเหลือง และสร้างสภาวะด่างที่ไม่เหมาะกับเชื้อโรค ผสมหนึ่งช้อนในน้ำอุ่น ดื่มหรือกลั้วคอทุกวันจนกว่าจะหาย
หมายเหตุ: หลีกเลี่ยงน้ำส้มสายชูหมักในกรณีที่มีอาการกรดไหลย้อนหรือท้องอืด
9. วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ในหญิงตั้งครรภ์
9.1 ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
เป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรฉีดก่อนตั้งครรภ์ หากยังไม่ได้ฉีด ให้ฉีดในไตรมาสกลางหรือปลาย เพื่อเพิ่มการป้องกัน
หลีกเลี่ยงแหล่งเชื้อไข้หวัดใหญ่ สวมหน้ากาก และล้างมือบ่อย ๆ ในสถานที่ผู้คนหนาแน่น เนื่องจากไวรัสแพร่ได้ง่าย
รักษาความสะอาดและอากาศถ่ายเทภายในบ้าน และดูแลร่างกายให้อบอุ่นในฤดูหนาว
เสริมสร้างความแข็งแรงด้วยโภชนาการที่สมดุลและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
9.2 รักษาในโรงพยาบาล
หากรักษาที่บ้านไม่เห็นผลควรพบแพทย์ในสถานพยาบาล โดยเน้นใช้ยาอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อทารก
ยาที่มักใช้ ได้แก่:
ยาต้านไวรัส: เช่น Tamiflu และอื่น ๆ ตามคำสั่งแพทย์ โดยใช้ภายใน 2 วันแรกของการเจ็บป่วย
Acetaminophen (Paracetamol): แก้ไข้ ปวดเมื่อย ปวดหัว แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ยาแก้ไอต่าง ๆ: เช่น Mucinex, Robitussin หรือ Vicks 44 แต่ต้องใช้ตามแพทย์แนะนำ
สเปรย์ฉีดจมูก: สเตียรอยด์จมูกส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่ควรขอชื่อยาและขนาดยาจากแพทย์
ยาต้านฮิสตามิน: เช่น Benadryl หรือ Claritin หากแพทย์อนุญาต แต่ในไตรมาสแรกบางคนอาจแนะนำให้หลีกเลี่ยง
โปรดจำไว้ว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา อย่าปฏิเสธยาที่แพทย์สั่งเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อทารก การได้รับการรักษาทันเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยของแม่และลูก
หญิงตั้งครรภ์เป็นโรคไข้หวัดใหญ่: สาเหตุ และ 7 เคล็ดลับป้องกันโรค
บทสรุป
บทความนี้ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการป้องกันไข้หวัดใหญ่ในระหว่างตั้งครรภ์ อย่าประมาทและปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค
ทุกคนเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่เด็กและหญิงตั้งครรภ์มีภูมิคุ้มกันน้อย จึงควรฉีดวัคซีนก่อนหรือระหว่างตั้งครรภ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น แท้งหรือทารกพิการ
นอกจากวัคซีนแล้ว การตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอที่สถานพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญ เพื่อช่วยตรวจจับโรคติดต่อซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพแม่และพัฒนาการของทารก
เว็บไซต์: https://wilimedia.co
เพจเฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/wilimediavn
อีเมล: support@wilimedia.co