สารบัญ

วิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียดวิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4

เมื่อคุณสงสัยว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ การตรวจสอบสภาพของคุณอย่างแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงเพื่อสุขภาพของคุณเอง แต่ยังเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ที่กำลังจะมาถึง ในประเทศญี่ปุ่น การตรวจครรภ์สามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การใช้ชุดตรวจที่บ้านไปจนถึงการตรวจอย่างละเอียดในโรงพยาบาล

แต่ละวิธีมีข้อดีแตกต่างกัน และการเข้าใจทางเลือกที่มีอยู่จะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของคุณได้ง่ายขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการตรวจครรภ์ที่พบบ่อยในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่การใช้ชุดตรวจที่บ้าน ไปจนถึงการตรวจเลือดและอัลตราซาวด์ที่โรงพยาบาล คุณจะได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการตรวจครรภ์อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

บทความนี้ยังให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวสำหรับการตั้งครรภ์ได้ดีที่สุด มาสำรวจกันว่าวิธีการตรวจครรภ์มีอะไรบ้าง และแต่ละวิธีสามารถช่วยให้คุณทราบผลการตั้งครรภ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำได้อย่างไร

วิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียดวิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียด

1. ประเภทของการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น – วิธีที่ได้รับความนิยม

1.1. ชุดตรวจครรภ์ (Pregnancy Test)

ชุดตรวจครรภ์เป็นหนึ่งในวิธีที่รวดเร็วและได้รับความนิยมมากที่สุดในการตรวจครรภ์ ซึ่งมีใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ในประเทศญี่ปุ่น ชุดตรวจครรภ์สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปและร้านสะดวกซื้อ

1.1.1. วิธีใช้:

ชุดตรวจครรภ์ทำงานโดยตรวจหาฮอร์โมน hCG (human chorionic gonadotropin) ในปัสสาวะ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นเฉพาะเมื่อมีการตั้งครรภ์ วิธีใช้งานคือ จุ่มแท่งตรวจลงในปัสสาวะเป็นเวลาสั้น ๆ จากนั้นรอประมาณ 5-10 นาทีเพื่อดูผล โดยปกติแล้ว หากตั้งครรภ์จะมี 2 ขีด และหากไม่ตั้งครรภ์จะมีเพียง 1 ขีด

อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่แถบผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจน เช่น ขีดที่สองจางมากหรือแทบมองไม่เห็น ในกรณีเช่นนี้ควรลองตรวจใหม่อีกครั้งหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน หรือปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

1.1.2. ความแม่นยำของชุดตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น:

ชุดตรวจครรภ์ที่จำหน่ายในญี่ปุ่นโดยทั่วไปมีความแม่นยำสูงถึง 99% หากใช้อย่างถูกต้องและในเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น เวลาในการตรวจ วิธีการเก็บรักษา และช่วงเวลาหลังการปฏิสนธิ ดังนั้น หากสงสัยในผลลัพธ์ ควรตรวจใหม่หรือใช้วิธีการตรวจอื่นเพิ่มเติม

1.1.3. ยี่ห้อชุดตรวจครรภ์ยอดนิยมในญี่ปุ่น:

ในญี่ปุ่นมีแบรนด์ชุดตรวจครรภ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจ เช่น Clearblue, P-Check และ Check One ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีคำแนะนำการใช้อย่างชัดเจน ทำให้คุณสามารถตรวจได้อย่างสะดวกที่บ้าน

1.2. การตรวจเลือด (Blood Test)

1.2.1. การตรวจเลือด

 เป็นการตรวจครรภ์ที่แม่นยำกว่าชุดตรวจครรภ์ทั่วไป โดยไม่เพียงตรวจสอบว่าคุณตั้งครรภ์หรือไม่ แต่ยังสามารถวัดระดับฮอร์โมน hCG ในเลือดเพื่อประเมินสถานะของการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย

1.2.2. ขั้นตอนการตรวจเลือด:

เมื่อคุณไปที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อทำการตรวจเลือด แพทย์จะเจาะเลือดจากหลอดเลือดดำในแขนเล็กน้อยเพื่อตรวจหาระดับฮอร์โมน hCG ผลการตรวจเลือดมักจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงถึง 1 วัน ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล การตรวจเลือดมักใช้ในกรณีที่ต้องการยืนยันการตั้งครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือเมื่อผลจากชุดตรวจครรภ์ไม่ชัดเจน

1.2.3. เวลาที่เหมาะสมในการตรวจเลือด:

 การตรวจเลือดมักแนะนำหากคุณมีอาการของการตั้งครรภ์อย่างชัดเจนแต่ผลตรวจครรภ์เป็นลบ หรือหากต้องการทราบระดับ hCG เพื่อใช้ติดตามการตั้งครรภ์ การตรวจเลือดยังใช้ในการติดตามพัฒนาการของทารกในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการตั้งครรภ์

=> การเปรียบเทียบความแม่นยำระหว่างการตรวจเลือดกับชุดตรวจครรภ์:
การตรวจเลือดมีความแม่นยำกว่าการใช้ชุดตรวจครรภ์ เนื่องจากสามารถตรวจจับฮอร์โมน hCG ในระดับต่ำมากได้ตั้งแต่ช่วงต้นของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขั้นตอนซับซ้อนกว่าและต้องไปที่สถานพยาบาล การตรวจเลือดจึงมักใช้เมื่อจำเป็นต้องทราบผลอย่างแน่นอนหรือเมื่อมีข้อสงสัยในผลลัพธ์จากชุดตรวจครรภ์

1.3. การอัลตราซาวด์ (Ultrasound Test)

1.3.1. การอัลตราซาวด์:

เป็นส่วนสำคัญของการดูแลครรภ์ ช่วยตรวจสอบไม่เพียงว่าคุณตั้งครรภ์หรือไม่ แต่ยังสามารถตรวจสอบสุขภาพและพัฒนาการของทารกในครรภ์

1.3.2. ขั้นตอนการอัลตราซาวด์:

การอัลตราซาวด์ใช้คลื่นเสียงเพื่อสร้างภาพของทารกภายในมดลูก โดยปกติจะทำครั้งแรกในช่วงสัปดาห์ที่ 6 ถึง 9 ของการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์และตรวจดูตำแหน่งของตัวอ่อน การอัลตราซาวด์ยังใช้ในการประเมินอายุครรภ์ ตรวจจำนวนทารก (หนึ่งคนหรือมากกว่า) และตรวจหาความผิดปกติใด ๆ

ช่วงเวลาสำคัญในการอัลตราซาวด์:

  •  ใอัลตราซาวด์ครั้งแรก: ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 ถึง 9 เพื่อตรวจยืนยันการตั้งครรภ์และดูตำแหน่งของตัวอ่อน

  • อัลตราซาวด์ประจำ: ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 12 ถึง 16 เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของทารกและประเมินความเสี่ยงของความผิดปกติ

  • อัลตราซาวด์กลางครรภ์: ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 18 ถึง 22 เพื่อตรวจโครงสร้างร่างกายของทารกอย่างละเอียดและทราบเพศ

  • อัลตราซาวด์ปลายครรภ์: ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 32 ถึง 36 เพื่อตรวจพัฒนาการและเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด

1.3.3. บทบาทของการอัลตราซาวด์ในการตรวจการตั้งครรภ์:

การอัลตราซาวด์ไม่เพียงแต่ช่วยยืนยันการตั้งครรภ์ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามพัฒนาการของทารกและตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ การอัลตราซาวด์เป็นประจำจะช่วยให้แน่ใจว่าทารกเจริญเติบโตปกติ และช่วยให้แพทย์ดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงทีหากพบปัญหาใด ๆ

1.4. วิธีตรวจอื่น ๆ

คล้ายกับการทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน แต่สามารถทำได้ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย

การทดสอบฮอร์โมนอื่นๆ (การทดสอบโปรเจสเตอโรน)

การทดสอบนี้ทำขึ้นเพื่อประเมินระดับโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการรักษาการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การทดสอบหลักในการวินิจฉัยการตั้งครรภ์ และมักใช้ร่วมกับวิธีการอื่นๆ

วิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียดวิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียด

2. ขั้นตอนการตรวจครรภ์ในสถานพยาบาลในญี่ปุ่น

2.1. การเลือกโรงพยาบาลและคลินิก

การเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อตรวจครรภ์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์และคุณภาพของการดูแลตลอดช่วงตั้งครรภ์ของคุณ ในประเทศญี่ปุ่นมีโรงพยาบาลและคลินิกสูตินรีเวชที่มีชื่อเสียงมากมาย แต่การเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะกับความต้องการและสถานการณ์ส่วนบุคคลไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป

เกณฑ์ในการเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกได้แก่: ทำเลที่ตั้ง คุณภาพของบริการ ทีมแพทย์ และประสบการณ์ของคุณแม่คนอื่น ๆ ที่เคยใช้บริการที่นั่น คุณควรศึกษาข้อมูลสถานพยาบาลใกล้ที่พักอย่างรอบคอบ ปรึกษาเพื่อนหรืออ่านรีวิวจากฟอรัมออนไลน์ และแม้กระทั่งเดินทางไปดูสถานที่จริงก่อนตัดสินใจ

โรงพยาบาลสูตินรีเวชที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ได้แก่: Tokyo International Hospital, โรงพยาบาล St. Luke’s, และ Tokyo Medical University Hospital

2.2. ขั้นตอนการลงทะเบียนและการตรวจ

เมื่อคุณเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะสมแล้ว คุณจะต้องลงทะเบียนเพื่อตรวจสุขภาพครรภ์ ในญี่ปุ่น ขั้นตอนการลงทะเบียนค่อนข้างเข้มงวด และคุณจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของโรงพยาบาลหรือคลินิกอย่างเคร่งครัด เริ่มต้นด้วยการเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประกันสุขภาพ หนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ) และสมุดบันทึกการตรวจครรภ์ (Mother-Child Handbook) หากมี

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหรือคลินิก คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนและรอเรียกคิว ในการตรวจครั้งแรก แพทย์จะตรวจร่างกายโดยรวม เช่น วัดความดันโลหิต น้ำหนัก และตรวจปัสสาวะ จากนั้นแพทย์จะสั่งการตรวจเพิ่มเติมที่จำเป็น เช่น ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์

กระบวนการตรวจในญี่ปุ่นมีความเป็นระบบและมืออาชีพอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุด หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจ แพทย์จะนัดวันตรวจครั้งต่อไป และให้คำแนะนำที่จำเป็นสำหรับการตั้งครรภ์

2.3. ขั้นตอนการตรวจโดยละเอียด

เมื่อคุณตัดสินใจตรวจครรภ์ในสถานพยาบาลของญี่ปุ่น คุณจะผ่านกระบวนการที่ชัดเจนและเป็นมืออาชีพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัย ต่อไปนี้เป็นกระบวนการทั่วไปของการตรวจครรภ์ในสถานพยาบาล:

การตรวจเลือด

เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการยืนยันการตั้งครรภ์ โดยทั่วไปจะดำเนินการในโรงพยาบาลหรือคลินิกสูติ ขั้นตอนประกอบด้วย:

  • การลงทะเบียนและซักประวัติ: เมื่อมาถึงสถานพยาบาล คุณจะลงทะเบียนและกรอกข้อมูลเบื้องต้น แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของคุณและเหตุผลในการตรวจ

  • เก็บตัวอย่างเลือด: พยาบาลจะเจาะเลือดจากแขน ซึ่งมักใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

  • ส่งตัวอย่างไปห้องแล็บ: เลือดจะถูกส่งไปตรวจวิเคราะห์ระดับฮอร์โมน hCG เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์และดูแนวโน้มระดับฮอร์โมน

  • รับผล: ผลตรวจเลือดมักจะออกภายใน 1-2 วัน คุณสามารถรับผลผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล หรือมารับที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง

การอัลตราซาวด์

การอัลตราซาวด์ทารกในครรภ์ ใช้ยืนยันการตั้งครรภ์และติดตามพัฒนาการของทารก ขั้นตอนรวมถึง:

  • การลงทะเบียนและซักประวัติ: ลงทะเบียนตามปกติ แพทย์จะสอบถามประวัติสุขภาพและอาการในปัจจุบัน

  • เตรียมตัวก่อนอัลตราซาวด์: อาจต้องดื่มน้ำให้กระเพาะปัสสาวะเต็ม เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน

  • ดำเนินการอัลตราซาวด์: แพทย์จะใช้หัวอัลตราซาวด์ตรวจที่หน้าท้อง (อัลตราซาวด์ภายนอก) หรือทางช่องคลอด (อัลตราซาวด์ภายใน) ขึ้นอยู่กับอายุครรภ์

  • รับผล: แพทย์จะแปลผลภาพอัลตราซาวด์และอธิบายผลให้คุณฟังทันที หรือในนัดถัดไป คุณยังสามารถรับภาพและรายงานกลับบ้านได้ด้วย

การตรวจฮอร์โมนจากปัสสาวะ

ในสถานพยาบาลอาจรวมถึงการวัดระดับฮอร์โมน hCG และฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ โดยมีขั้นตอน:

  • การลงทะเบียนและซักประวัติ: ลงทะเบียนตามขั้นตอน แพทย์สอบถามข้อมูลสุขภาพ

  • เก็บตัวอย่างปัสสาวะ: คุณจะได้รับภาชนะสะอาดเพื่อเก็บปัสสาวะ และส่งตัวอย่างให้ห้องแล็บ

  • วิเคราะห์ที่ห้องแล็บ: ตรวจวิเคราะห์ระดับฮอร์โมนเพื่อดูความน่าจะเป็นของการตั้งครรภ์

  • รับผล: โดยทั่วไปใช้เวลา 1-2 วัน ผลสามารถรับทางโทรศัพท์ อีเมล หรือมารับเอง

2.4. การปรึกษาและติดตามผล

หลังจากได้รับผลตรวจ แพทย์จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนถัดไป และแนะนำการดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ หากผลบ่งชี้ว่าคุณตั้งครรภ์ แพทย์จะนัดตรวจติดตามเป็นประจำเพื่อตรวจดูพัฒนาการของทารกและสุขภาพของคุณ

วิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียดวิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียด

3. ค่าใช้จ่ายในการตรวจและประกันสุขภาพในญี่ปุ่น

3.1. ค่าใช้จ่ายในการตรวจครรภ์

ค่าใช้จ่ายในการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่นแตกต่างกันไปตามประเภทของการตรวจและสถานพยาบาลที่เลือก โดยทั่วไป การใช้ชุดตรวจปัสสาวะที่บ้านเป็นทางเลือกที่ถูกที่สุด ราคาหลักร้อยเยน อย่างไรก็ตาม หากทำที่โรงพยาบาลหรือคลินิก ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น เนื่องจากรวมถึงค่าตรวจร่างกายและค่าปรึกษาแพทย์

การตรวจเลือดมักมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 5,000 – 10,000 เยน ขึ้นอยู่กับชนิดของการตรวจและโรงพยาบาล ส่วนการอัลตราซาวด์มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 7,000 – 20,000 เยน แล้วแต่ระยะเวลาการตรวจและจำนวนครั้ง

หากคุณมีประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถลดลงได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกบริการที่จะได้รับการคุ้มครองจากประกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเข้ารับการตรวจ

3.2. ประกันสุขภาพและสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง

ญี่ปุ่นมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ให้พลเมืองทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ในราคาที่เหมาะสม สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ประกันสุขภาพมีสิทธิประโยชน์พิเศษหลายประการ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการตรวจครรภ์ และการสนับสนุนทางการเงินตลอดการตั้งครรภ์

เพื่อให้ได้รับสิทธิ์เหล่านี้ คุณต้องลงทะเบียนประกันสุขภาพล่วงหน้า และแจ้งหน่วยงานประกันเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ หลังจากลงทะเบียนแล้ว คุณจะได้รับคูปองส่วนลดค่าบริการทางการแพทย์ พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่คุณมีสิทธิ์ได้รับ

4. ประสบการณ์และคำแนะนำจากคุณแม่ที่เคยตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น

4.1. ข้อควรระวังเมื่อเข้ารับการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น

การตรวจครรภ์เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเดินทางสู่การเป็นแม่ และมีบางเรื่องที่ควรคำนึงถึงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและกระบวนการที่ราบรื่น เมื่อใช้ชุดตรวจที่บ้าน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด และควรใช้ในตอนเช้าเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากผลไม่ชัดเจนหรือผิดปกติ อย่าลังเลที่จะไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันผล

สำหรับการตรวจเลือดและอัลตราซาวด์ ควรปฏิบัติตามตารางนัดและคำแนะนำของแพทย์ สิ่งนี้จะไม่เพียงช่วยให้ผลตรวจแม่นยำ แต่ยังช่วยให้คุณติดตามสุขภาพของทารกได้ดีที่สุด คุณควรเตรียมจิตใจและความรู้ให้พร้อม เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ผลตรวจที่แสดงปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์

4.2. ประสบการณ์จากคุณแม่ที่เคยผ่านการตรวจ

คุณแม่หลายคนที่เคยเข้ารับการตรวจครรภ์และดูแลครรภ์ในญี่ปุ่นมีประสบการณ์มีค่าให้แบ่งปัน บางคนพบว่าการเลือกโรงพยาบาลและแพทย์ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมาก เพราะส่งผลต่อประสบการณ์ตลอดช่วงตั้งครรภ์ คนอื่น ๆ แนะนำให้เตรียมตัวทั้งด้านจิตใจและการเงิน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการแพทย์ในญี่ปุ่นอาจสูงกว่าหลายประเทศ

คำแนะนำที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ รวมถึงการมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ รับประทานอาหารที่สมดุล ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แม่และลูกมีสุขภาพดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณแม่ยังเน้นถึงความสำคัญของจิตใจที่ผ่อนคลายและมองโลกในแง่บวก ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการของทารกอย่างมาก

วิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียดวิธีการตรวจครรภ์ในญี่ปุ่น: 4 ขั้นตอนโดยละเอียด

สรุป

การตรวจครรภ์เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเดินทางสู่การเป็นแม่ และการเข้าใจขั้นตอนการตรวจในประเทศญี่ปุ่นจะช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับช่วงเวลานี้ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ เพื่อให้คุณและทารกได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ทันสมัยและเข้มงวด ซึ่งหมายความว่าคุณจำเป็นต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบและเข้าใจกฎระเบียบเมื่อเข้ารับการตรวจและดูแลครรภ์ที่นี่ ใช้สิทธิประโยชน์จากประกันสุขภาพให้เต็มที่ และปรึกษาคุณแม่คนอื่นเพื่อมีการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดีและมีความสุข


Website: https://wilimedia.co
Fanpage: https://www.facebook.com/wilimedia.en
Mail: support@wilimedia.co