เนื่องจากมีรสหวาน เย็น และฉ่ำ หลายคนรวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ชอบลูกแพร์ อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์หลายคนถามว่า "หญิงตั้งครรภ์กินลูกแพร์ได้ไหม?" อ่านต่อเพื่อหาคำตอบในบทความนี้!
ลูกแพร์เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร มีรสหวานเย็นและฉ่ำที่หญิงหลายคนชื่นชอบ แต่หญิงตั้งครรภ์สามารถกินผลไม้นี้ได้หรือไม่? มาร่วมอ่านบทความต่อไปนี้กับ WiliMedia เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่หญิงตั้งครรภ์อาจพบเมื่อกินลูกแพร์
1. คุณค่าทางโภชนาการของลูกแพร์
ลูกแพร์เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและเส้นใย มีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหารของมนุษย์ จากการวิจัย สารอาหารดังต่อไปนี้พบในลูกแพร์ 100 กรัม:
- น้ำ 86.5 กรัม
- ไขมัน 0.1 กรัม
- โปรตีน 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม
- เส้นใย 1.6 กรัม
- แคลเซียม 14 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 3 มิลลิกรัม
- วิตามิน PP 0.2 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.5 มิลลิกรัม
- วิตามิน B, C, และเบตาแคโรทีน
- วิตามิน B3 0.3 มิลลิกรัม
- กรดโฟลิก 1 มิลลิกรัม
- วิตามิน A, C, K, และ B9
- 57 แคลอรี
- น้ำตาล 10 กรัม
- โพแทสเซียม 116 มิลลิกรัม
- โซเดียม 1 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 2%
ลูกแพร์มีเส้นใยและสารอาหารมากกว่าและแคลอรีน้อยกว่าผลไม้อื่นๆ หลายชนิด ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าหญิงตั้งครรภ์ควรกินลูกแพร์ทุกวันหรือไม่?

17 ประโยชน์ของลูกแพร์สำหรับคนท้อง
2. หญิงตั้งครรภ์กินลูกแพร์ได้ไหม?
ลูกแพร์เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำและอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และพัฒนาการของทารกในครรภ์ ได้แก่ สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน A, C, K เส้นใย แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ
ดังนั้น ผลไม้นี้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ สำหรับคำถามที่ว่า "หญิงตั้งครรภ์กินลูกแพร์ได้ไหม?" คำตอบคือได้ แต่หญิงตั้งครรภ์ต้องรู้จักวิธีกินอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพสุขภาพของตนเอง
หญิงตั้งครรภ์ควรจำไว้ว่าต้องล้างลูกแพร์ให้สะอาดและปอกเปลือกก่อนกินเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือเชื้อโรคบนผิว และไม่ควรกินลูกแพร์มากเกินไปในแต่ละวัน
พิจารณาสภาพสุขภาพของตนเองก่อนกินลูกแพร์ หากมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือปัญหาการย่อยอาหาร ควรจำกัดการบริโภค

17 ประโยชน์ของลูกแพร์สำหรับคนท้อง
3. ประโยชน์ของการกินลูกแพร์สำหรับหญิงตั้งครรภ์
นอกจากตอบคำถามว่า "หญิงตั้งครรภ์กินลูกแพร์ได้ไหม?" นี่คือประโยชน์ที่ลูกแพร์มอบให้ทั้งแม่และทารก:
ลดอาการท้องผูก:
ลูกแพร์เป็นแหล่งของใยอาหารที่ดี โดยเฉพาะเพคติน ซึ่งช่วยระบบย่อยอาหารและลดอาการท้องผูกที่พบบ่อยจากการเสริมธาตุเหล็กป้องกันการติดเชื้อ:
ลูกแพร์อุดมด้วยวิตามิน C ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด ไข้ และโรคระบบทางเดินหายใจให้พลังงาน:
ลูกแพร์ 1 ผลให้พลังงานประมาณ 100 แคลอรี น้ำลูกแพร์ 1 แก้วให้ประมาณ 46 แคลอรีควบคุมความอยากหวาน:
มีคาร์โบไฮเดรตแบบฟรุกโตสและกลูโคส ช่วยให้พลังงานและลดความอยากน้ำตาลให้สารต้านอนุมูลอิสระ:
เช่น เควอซิทิน และวิตามิน C ช่วยปกป้องเซลล์ควบคุมน้ำหนัก:
ใยอาหารสูง แคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนักส่งเสริมสุขภาพหัวใจ:
มีโพแทสเซียม 116 มก. ต่อ 100 กรัม ช่วยควบคุมความดันและสุขภาพหัวใจขจัดสารพิษ:
แทนนินในลูกแพร์ช่วยขับโลหะหนักและสารพิษให้กรดโฟลิก:
ลูกแพร์ 1 ผลมีกรดโฟลิกประมาณ 12 มก. จำเป็นต่อพัฒนาการของทารกส่งเสริมสุขภาพกระดูก:
มีแคลเซียมช่วยพัฒนากระดูกของแม่และทารกเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน:
เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการภูมิคุ้มกันแข็งแรงลดภาวะซึมเศร้า:
มีฤทธิ์คล้ายยาต้านซึมเศร้าธรรมชาติให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกาย:
ช่วยเพิ่มน้ำในร่างกายที่จำเป็นในระหว่างตั้งครรภ์ป้องกันเบาหวานขณะตั้งครรภ์:
คาร์โบไฮเดรตในลูกแพร์เป็นชนิดที่ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงลดความผิดปกติของการเกิด:
วิตามิน B9 ช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทในทารก เช่น สไปนาไบฟิดาลดอาการบวม:
โคบอลต์ในลูกแพร์ช่วยดูดซึมเหล็กและกระตุ้นไตให้ขับน้ำส่วนเกินสนับสนุนสุขภาพกระดูกของทารกในครรภ์:
แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระดูกและฟันของทารก
ข้อควรระวังในการกินลูกแพร์
แม้ลูกแพร์จะมีสารอาหารมาก แต่หากบริโภคไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียได้:
- การกินลูกแพร์มากเกินไป (ที่มีฤทธิ์เย็น) อาจทำให้ปวดท้องหรือเป็นหวัด
- น้ำยางจากลูกแพร์อาจทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะ ก่อให้เกิดปัญหาการย่อยอาหารหรือท้องผูก หากกินขณะท้องว่าง
- การกินลูกแพร์ร่วมกับอาหารไขมันหรือโปรตีนสูง อาจทำให้ไตทำงานหนัก
- การกินลูกแพร์ร่วมกับผักขาวหรือหัวไชเท้า อาจก่อให้เกิดอาการบวมและปัญหาต่อมไทรอยด์
17 ประโยชน์ของลูกแพร์สำหรับคนท้อง
4. วิธีการกินลูกแพร์อย่างถูกต้องสำหรับหญิงตั้งครรภ์
ลูกแพร์มีคุณค่าทางโภชนาการและให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนั้น นอกจากถามว่า "หญิงตั้งครรภ์กินลูกแพร์ได้ไหม?" หญิงตั้งครรภ์ควรรู้วิธีเลือกและกินลูกแพร์อย่างถูกต้อง
ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการ หญิงตั้งครรภ์ควรกินลูกแพร์ตามแนวทางต่อไปนี้:
เนื่องจากลูกแพร์มีไขมันและน้ำตาลต่ำ หญิงตั้งครรภ์สามารถกินลูกแพร์ขนาดเล็ก (ขนาดกลาง) วันละ 1-3 ผล กินมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดและเสี่ยงต่อเบาหวานขณะตั้งครรภ์
เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ กินลูกแพร์ 1-2 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร และผสมกับผลไม้ที่มีประโยชน์อื่นๆ
ล้างลูกแพร์ให้สะอาดก่อนกินเพื่อขจัดแบคทีเรียและปรสิต หลีกเลี่ยงการกินลูกแพร์ที่ทิ้งไว้ข้ามคืนหรือเกิน 24 ชั่วโมง เพราะแบคทีเรียจะเพิ่มขึ้น
หญิงตั้งครรภ์ควรรู้วิธีเก็บรักษาลูกแพร์เพื่อใช้ได้นานขึ้น:
เก็บลูกแพร์ทั้งผลก่อนแช่เย็น
เพื่อป้องกันการปนเปื้อนระหว่างผลไม้กับอาหารสดเช่นอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ ให้ห่อผลไม้ด้วยพลาสติกหรือฟิล์มอาหารก่อนแช่เย็น
5. เคล็ดลับในการเลือกซื้อลูกแพร์ที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์
หญิงตั้งครรภ์ครั้งแรกอาจไม่รู้ว่าเมื่อเลือกซื้อลูกแพร์อาจเลือกผลที่เสียหายหรือผ่านการเคมีโดยไม่รู้ตัว การบริโภคสารเคมีเหล่านี้เป็นอันตราย ดังนั้นนี่คือเคล็ดลับในการเลือกซื้อลูกแพร์สด ปลอดสารเคมี:
รูปร่างกำหนดคุณภาพ: หญิงตั้งครรภ์ควรมองหารูปร่างของลูกแพร์เมื่อซื้อลูกแพร์ ลูกแพร์ที่ดีจะมีรูปร่างอ้วนและสีสดใส หลีกเลี่ยงลูกแพร์ที่มีรูปร่างผิดปกติหรือเสียหาย
ตรวจผิว: สำหรับลูกแพร์ท้องถิ่น เลือกลูกที่มีผิวเรียบ สีเหลืองอ่อน หลีกเลี่ยงลูกแพร์ที่มีเส้นสีน้ำตาลหรือจุดดำมาก
ตรวจสอบก้น: เลือกลูกแพร์ที่มีก้นเรียบและฐานลึก หลีกเลี่ยงลูกแพร์ที่มีฐานกว้าง ตื้น หรือเสียหาย
ตรวจดูต้น: ลูกแพร์ที่ดีมีต้นที่ลึก หลีกเลี่ยงลูกแพร์ที่มีต้นตื้นหรือเสียหาย
น้ำหนัก: ลูกแพร์ที่ดีจะรู้สึกหนัก ลองเคาะเบาๆ ถ้าลูกแพร์แข็งจะมีความยืดหยุ่น หลีกเลี่ยงลูกแพร์ที่เบาแห้งและไม่กรอบ

17 ประโยชน์ของลูกแพร์สำหรับคนท้อง
บทสรุป
ลูกแพร์ถือเป็นยาธรรมชาติสำหรับอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ เหนื่อยล้า การเผาผลาญต่ำ ปัญหาการย่อยอาหาร เบื่ออาหาร และโรคอ้วน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรเพิ่มลูกแพร์ในอาหารใช่ไหม?
เพื่อให้ได้วิตามินที่จำเป็น หญิงตั้งครรภ์สามารถลองผลไม้หรือผลไม้ชนิดอื่นแทนลูกแพร์ก็ได้ ซึ่งช่วยรักษาผิวให้สวยเปล่งปลั่ง
เว็บไซต์: https://wilimedia.co/
แฟนเพจ: https://www.facebook.com/wilimedia.en
อีเมล: support@wilimedia.co