การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของผู้หญิงที่การเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วผักจะถือเป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ผักบางชนิดก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์ได้ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจผักที่หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้การตั้งครรภ์ปลอดภัยและมีสุขภาพดี คำแนะนำนี้จัดทำโดย Wilimedia ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ด้านโภชนาการที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์
15 ผักต้องระวังสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

1. ถั่วงอกดิบ
ถั่วงอกดิบ เช่น ถั่วงอก ถั่วงอกอัลฟัลฟา และถั่วงอกหัวไชเท้า มักถูกใส่ในสลัดและแซนด์วิชเพื่อให้มีความกรุบกรอบและมีคุณค่าทางโภชนาการ อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่วงอกดิบเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ถั่วงอกเหล่านี้สามารถเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย เช่น อีโคไล ลิสทีเรีย และซัลโมเนลลา ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงจากอาหารได้ การปรุงถั่วงอกอาจช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์
2. ผักที่ไม่ได้ล้าง
ผักที่ไม่ได้ล้าง ไม่ว่าจะซื้อจากร้านหรือปลูกเองที่บ้าน อาจมีแบคทีเรีย ปรสิต และยาฆ่าแมลงที่เป็นอันตราย Toxoplasma gondii ซึ่งเป็นปรสิตที่พบในดินที่ปนเปื้อน เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับสตรีมีครรภ์ โดยทำให้เกิดโรคท็อกโซพลาสโมซิส การติดเชื้อนี้สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การแท้งบุตร ทารกในครรภ์ตาย หรือข้อบกพร่องแต่กำเนิด เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ สตรีมีครรภ์ควรล้างผักให้สะอาดก่อนรับประทานเสมอ
3. ผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่งเป็นสมุนไพรที่มักใช้ตกแต่งจานหรือเพิ่มรสชาติให้กับจานอาหาร อย่างไรก็ตาม หากรับประทานผักชีฝรั่งในปริมาณมาก ผักชีฝรั่งอาจกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือคลอดก่อนกำหนด แม้ว่าโดยทั่วไปผักชีฝรั่งจะปลอดภัยในการใช้เป็นเครื่องเทศในปริมาณเล็กน้อย แต่สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคในปริมาณมาก เช่น ในชาสมุนไพรหรือน้ำผลไม้
4. เมล็ดพืชชนิดหนึ่ง
เมล็ดพืชชนิดหนึ่งเป็นสมุนไพรที่นิยมใช้กันในอาหารอินเดียและยาแผนโบราณ แม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่เมล็ดพืชชนิดนี้สามารถกระตุ้นการหดตัวของมดลูกได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในระยะแรกๆ สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดพืชชนิดหนึ่ง ชา หรืออาหารเสริม เพื่อลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดหรือการแท้งบุตร
15 ผักต้องระวังสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

5. ผักชีลาว
ผักชีลาวเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติดี มักใช้ในสลัด ซุป และชา อย่างไรก็ตาม ผักชีลาวมีสารประกอบที่สามารถกระตุ้นมดลูก ทำให้เกิดการหดตัวและคลอดก่อนกำหนด สตรีมีครรภ์ควรจำกัดการบริโภคผักชีลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปริมาณมากหรือใช้เป็นอาหารเสริม
6. มะละกอ
แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วมะละกอจะเป็นผลไม้ แต่ก็มักใช้เป็นผักในอาหารหลายชนิด มะละกอดิบหรือสุกครึ่งหนึ่งมีน้ำยาง ซึ่งอาจทำให้มดลูกบีบตัวและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น แท้งบุตรหรือคลอดก่อนกำหนด มะละกอสุกถือว่าปลอดภัยโดยทั่วไป แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะละกอดิบหรือสุกครึ่งสุกในระหว่างตั้งครรภ์
7. มะละกอ
มะละกอหรือที่รู้จักกันในชื่อมะระขี้นกเป็นผักที่ได้รับความนิยมในอาหารเอเชียและแอฟริกา มีรสขมที่โดดเด่นและขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติทางยา อย่างไรก็ตาม มะละกออาจทำให้มดลูกบีบตัวและมีเลือดออก ทำให้ไม่ปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดปัญหาในการย่อยอาหาร เช่น ท้องเสียและปวดท้อง
8. มะเขือยาว
มะละกอหรือที่เรียกอีกอย่างว่ามะเขือยาวเป็นผักอเนกประสงค์ที่ใช้ในอาหารหลายชนิด แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วมะละกอจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่สารโซลานีนในมะละกออาจเป็นอันตรายได้หากรับประทานในปริมาณมาก สารโซลานีนอาจขัดขวางการพัฒนาของทารกในครรภ์และอาจทำให้เกิดข้อบกพร่องแต่กำเนิด สตรีมีครรภ์ควรรับประทานมะละกอในปริมาณที่พอเหมาะและหลีกเลี่ยงการรับประทานมากเกินไป
9. กระเทียม
กระเทียมเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพและมักใช้ในการปรุงอาหาร อย่างไรก็ตาม การบริโภคกระเทียมมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดอาการเสียดท้อง คลื่นไส้ และปัญหาการย่อยอาหาร ในบางกรณี กระเทียมอาจทำให้เลือดเจือจางได้ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกมากขึ้น สตรีมีครรภ์ควรบริโภคกระเทียมในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้
10. กะหล่ำปลีและคะน้า
กะหล่ำปลีและคะน้าเป็นผักตระกูลกะหล่ำที่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม ผักเหล่านี้อาจทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด และไม่สบายตัวในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะเมื่อรับประทานดิบ นอกจากนี้ ผักเหล่านี้ยังมีกอยโตรเจน ซึ่งเป็นสารที่อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ สตรีมีครรภ์ควรปรุงกะหล่ำปลีและคะน้าให้สุกเพื่อลดผลกระทบเหล่านี้

15 ผักต้องระวังสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

11. ขึ้นฉ่าย
ขึ้นฉ่ายเป็นผักแคลอรีต่ำที่มักใช้ในสลัดและเป็นอาหารว่าง อย่างไรก็ตาม ขึ้นฉ่ายมีสารประกอบที่สามารถทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะ ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นและร่างกายขาดน้ำ สตรีมีครรภ์ควรบริโภคขึ้นฉ่ายในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อภาวะร่างกายขาดน้ำ ซึ่งส่งผลต่อทั้งแม่และลูก
12. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่างไรก็ตาม หน่อไม้ฝรั่งมีแอสพาราจีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นและเสี่ยงต่อการขาดน้ำ สตรีมีครรภ์ควรระมัดระวังการรับประทานหน่อไม้ฝรั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มักขาดน้ำ
13. บีทรูท
บีทรูทเป็นผักรากที่ขึ้นชื่อในเรื่องสีสันสดใสและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อย่างไรก็ตาม บีทรูทมีออกซาเลตสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดนิ่วในไตในผู้ที่มีอาการไวต่อสิ่งเร้า สตรีมีครรภ์ควรรับประทานบีทรูทในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดและภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์
14. รูบาร์บ
รูบาร์บเป็นผักที่มักใช้ในของหวานและแยม อย่างไรก็ตาม ใบรูบาร์บมีกรดออกซาลิก ซึ่งเป็นพิษและอาจทำให้เกิดนิ่วในไต คลื่นไส้ อาเจียน และอาจถึงแก่ชีวิตได้ในกรณีที่รุนแรง แม้ว่าลำต้นจะปลอดภัยในการรับประทาน แต่สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานใบรูบาร์บและรับประทานลำต้นในปริมาณที่พอเหมาะ
15. อัลฟัลฟา
อัลฟัลฟาเป็นพืชงอกที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงซึ่งมักใส่ในสลัดและขนมปัง อย่างไรก็ตาม อัลฟัลฟาอาจปนเปื้อนแบคทีเรีย เช่น อีโคไลและซัลโมเนลลา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ อัลฟัลฟายังมีไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งสามารถรบกวนระดับฮอร์โมนและส่งผลต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอัลฟัลฟาเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้

15 ผักต้องระวังสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
สรุป
ในระหว่างตั้งครรภ์ การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งแม่และทารกในครรภ์จะมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย แม้ว่าผักจะเป็นส่วนสำคัญของอาหารที่สมดุล แต่ควรหลีกเลี่ยงผักบางชนิดเนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ สตรีมีครรภ์สามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพของตนเองได้ด้วยการใส่ใจผักที่กล่าวถึงในบทความนี้และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Wilimedia มุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้และถูกต้องเพื่อสนับสนุนสตรีมีครรภ์ในการเดินทางสู่การเป็นแม่
>>>>> คุณอาจสนใจ:
สิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรทานในช่วง 3 เดือนแรก: 10 อาหาร
หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการท้องอืด: 6 เคล็ดลับในการรักษาอาการท้องอืด
สิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์?
หญิงตั้งครรภ์ควรทานอะไรเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ ไม่ใช่ต่อแม่: 4 เคล็ดลับสำหรับคุณแม่
เว็บไซต์: https://wilimedia.co/
แฟนเพจ: https://www.facebook.com/wilimedia.en
อีเมล: support@wilimedia.co